ในปี 2566 ทนายตั้มได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับสถิติการเงินของตนเอง โดยมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1,805,979 บาท และหนี้สินรวมอยู่ที่ 4,562,530 บาท ทำให้เกิดขาดทุนสุทธิในปีนี้อยู่ที่ 5,950,312 บาท
สถิติการเงินปี 2565
ในปีที่ผ่านมา ทนายตั้มมีสินทรัพย์รวม 4,090,404 บาท จะเห็นว่ามีการลดลงจากปีนี้
แต่ก็มีรายได้รวมทั้งสิ้น 9,173,363 บาท และรายจ่ายรวมอยู่ที่ 15,111,072 บาท
การลดสินทรัพย์รวม
ปี 2566 เป็นปีที่สินทรัพย์รวมของทนายตั้มลดลงอย่างสังเกตได้ ทำให้เห็นว่ามีการจัดการทรัพยากรในแง่ลบบาง
การลดลงของสินทรัพย์รวมอาจมีผลจากการลงทุนที่ไม่ได้ผลผลิตตั้งแต่ต้นหรือยังมีหนี้สินค้าดีเกินไป
การเพิ่มหนี้สินรวม
หนี้สินรวมของทนายตั้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาจเป็นเพราะการกู้ยืมเพิ่มขึ้นหรือการเงินที่ค้างคาในปี 2566
การเพิ่มหนี้สินอาจมาจากการลงทุนในโครงการที่ไม่เป็นไปตามแผนหรือมีต้นทุนสูงเกินไป
การจัดการรายได้และรายจ่าย
มีรายได้รวมสูงกว่ารายจ่ายทั้งปี 2565 และปี 2566 แม้กับขาดทุนสุทธิไม่เคยลดลงมากกว่าสินทรัพย์ที่ลดลง
การเงินที่ไม่ได้ผลของทนายตั้มอาจมาจากการลงทุนในกิจการที่ยังไม่ได้ผลตั้งต้นหรือมีการจัดสิ่งกองทุนในเวลาไม่เหมาะสม
ผลกระทบจากขาดทุนสุทธิ
ขาดทุนสุทธิอย่างเน้อยก็แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมธุรกิจของทนายตั้มไม่มีกำไรอย่างน้อยเลย
เพราะสถิติการเงินที่แสดงให้เห็นว่ารายได้ไม่พอเพื่อปกป้องค่าใช้จ่ายรวมและจำเป็นต้องทำการปรับเปลี่ยนกำหนดการเงิน
If you have any questions, please don't hesitate to Contact Me.
Back to Online Trends